ทุกอย่างเกิดขึ้นในชั่วพริบตา
แก่นกายของลู่เทียนเฉินปัดผ่านช่องทางด้านหลังอย่างน่าหวาดเสียว เพราะยังไม่ได้เบิกทาง มันเลยผ่านเข้ามาถูไถกับแก่นกายของเฟยซูหลิงที่กำลังมีอารมณ์
“......” เฟยซูหลิงชะงัก เผลอสบตากับลู่เทียนเฉิน ร่างกายแข็งค้าง
เหตุการณ์เมื่อครู่ทำเอาหัวใจเขาหล่นไปวูบหนึ่ง ลู่เทียนเฉินเองก็น่าจะสัมผัสได้เหมือนกัน
ตอนนี้พวกเขาอยู่ในท่าทางที่น่าหวาดเสียวเกินไป แก่นกายทั้งสองเสียดสีกันในจุดอันตราย เฟยซูหลิงชิงลุกหนีอีกรอบ ทว่าคราวนี้ลู่เทียนเฉินไม่ยอมแล้ว ตะครุบเอวของเขาไว้ไม่ยอมปล่อย
ดูก็รู้ว่าลู่เทียนเฉินต้องการอะไร “ไม่เอา!” เฟยซูหลิงปฏิเสธโดยไม่ต้องคิด ครั้งแรกที่พวกเขาทำ ตอนนั้นลู่เทียนเฉินแทบไม่มีสติ ทว่าตอนนี้พวกเขามีสติดีกันทั้งคู่!
สิ้นเสียง ลู่เทียนเฉินแทรกนิ้วเข้าไปเสมือนไม่ยินยอม
เฟยซูหลิงดิ้น แต่อย่างที่รู้กัน แรงกายของเขาสู้ลู่เทียนเฉินไม่ได้ “...เราเพิ่งทำไปเมื่อสองวันก่อน” เขาพยายามประนีประนอม ทำหน้าน่าเอ็นดูเผื่อลู่เทียนเฉินจะเห็นใจ
น่าเสียดาย ใบหน้านั้นยิ่งทำให้ลู่เทียนเฉินอยากแกล้ง
“แต่ฉันอยากอีกแล้ว” ลู่เทียนเฉินกล่าว สีหน้าระรื่นจนสีหน้าของเฟยซูหลิงเปลี่ยนทันที
โกหก!
เฟยซูหลิงกล่าวในใจ ตอนที่กำลังจะประท้วง นิ้วของลู่เทียนเฉินก็แทรกมาอีกนิ้วไม่ทันได้พูด
“...มันเจ็บ” เฟยซูหลิงกล่าวเสียงสะอื้น ไม่ว่าอย่างไรเขาก็จะไม่ยอมพูดสิ่งที่รู้สึกจริง ๆ ให้ลู่เทียนเฉินได้ยิน
ความจริงแล้ว นอกจากความเจ็บยังมีความรู้สึกเสียวซ่านแทรกขึ้นมา ความรู้สึกนั้นชัดเจนมาก แต่ด้วยความทะนงตัว เฟยซูหลิงจึงไม่อยากพูดออกไป
“เด็กดี เดี๋ยวฉันพาไปกินยานะ”
ไม่อยากเชื่อว่านอกจากจะไม่เห็นใจ ลู่เทียนเฉินยังเมิน จูบที่หน้าผากของเฟยซูหลิงไม่รอให้อีกฝ่ายตอบ ร่างสูงอุ้มเฟยซูหลิงที่เอาแต่ดิ้นขึ้นมา พยายามป้อนยาทว่าคนในอ้อมกอดไม่ยอมกิน
แน่นอนว่าเฟยซูหลิงจำได้ไม่มีลืม เพราะกินยาฟื้นฟูเข้าไปตอนนั้นเขาเลยไม่สลบ และเมื่อไม่สลบ ลู่เทียนเฉินเลยไม่ยอมหยุดทำ “ไม่เอา อื้อ” เฟยซูหลิงปฏิเสธ เบือนหน้าหนีเหมือนเด็กไม่ยอมกินยา ท้ายที่สุดลู่เทียนเฉินไม่มีทางเลือกเป็นฝ่ายดื่มยาฟื้นฟูเข้าไป จากนั้นประกบจูบอีกฝ่ายดุนดันให้ดื่มยาฟื้นฟูแทน
รสชาติเรียบลื่นของยาไหลเข้าผ่านลำคอ ชั่วขณะนั้นอ้อมแขนที่ลู่เทียนเฉินใช้กักขังอ่อนแรงลงชั่วครู่ ด้วยโอกาสนั้นเฟยซูหลิงจึงดิ้นหลุดจากแขนลู่เทียนเฉินได้ สองขารีบวิ่งไปที่ประตูห้องน้ำเพื่อที่จะหลบ เพราะความตื่นกลัวจึงเผลอหลงลืมว่าตนเองสามารถเทเลพอร์ตหนี
ปัง!
มือของเฟยซูหลิงไม่ทันได้แตะประตูห้องน้ำด้วยซ้ำ ลู่เทียนเฉินที่มีสมรรถภาพทางกายอันน่ากลัวก็วิ่งตามเขาทัน
“อื้อ!!!” ร่างกายถูกลู่เทียนเฉินกอดรั้งไว้ เพียงพริบตาเดียว สิ่งใหญ่โตของลู่เทียนเฉินก็จ่อช่องทางหุบอ้า ยั่วยวนให้บางสิ่งบางอย่างแทรกกายเข้ามาอย่างดุดัน
“ยิ่งนายหนีมันยิ่งกระตุ้นฉันนะ” ลู่เทียนเฉินกล่าวเสียงแหบพร่า เฟยซูหลิงที่ปกติจะเย่อหยิ่งตลอดเวลา กำลังวิ่งหนีเหมือนกระต่ายตื่นตูม ภาพนั้นทำให้สัญชาตญาณสัตว์ป่าของลู่เทียนเฉินแล่นพล่านถึงที่สุด อยากกระโจนเข้าไปขย้ำกระต่ายน้อยตัวนั้น
แก่นกายของลู่เทียนเฉินปริ่มน้ำ เฉกเช่นสัตว์ป่าที่กำลังอยู่ในฤดูผสมพันธุ์ ดวงตาของเฟยซูหลิงที่เห็นภาพนั้นเบิกกว้าง ขณะที่กำลังจะอ้าปาก ลู่เทียนเฉินก็แทรกแก่นกายเข้ามาทันที
“อ๊า!”
เสียงร้องของเฟยซูหลิงดังออกมาอย่างไม่ทันตั้งตัว แก่นกายของลู่เทียนเฉินแทรกเข้าไปได้เพียงส่วนหัว ขาทั้งสองข้างของเฟยซูหลิงก็สั่นสะท้านจนทนยืนไม่ไหว ร่างกายปวกเปียกแทบร่วงลงไป อาศัยท่อนแขนแกร่งของลู่เทียนเฉินคอยพยุงร่างไว้ไม่ให้ล้ม
“ปล่อยฉันเถอะ ฮื่อ…” เฟยซูหลิงพยายามจะอ้อนวอนอีกครั้ง แม้จะรู้ว่าจริง ๆ แล้วที่พยายามหนีไม่ใช่ว่าไม่อยากทำ
เฟยซูหลิงไม่อยากยอมรับ ว่าการเป็นรับให้ลู่เทียนเฉินรู้สึกดียิ่งกว่าเป็นรุกให้คนอื่นอีก
เขารู้สึกดีเกินไป
ดีจนกลัวว่าสักวัน เขาจะติดใจจนถอนตัวไม่ไหว
เมื่อเห็นว่าแก่นกายเข้าไปด้านในได้เพียงนิดเดียว ลู่เทียนเฉินก็จับเอวของเฟยซูหลิงให้ขยับเข้ามา บดเบียดแก่นกายฝังตัวตนให้เข้าถึงส่วนที่ลึกที่สุด “อะ อ๊า! ฮือออ” เฟยซูหลิงหวีดร้องลั่น ถึงจะกลั้นเสียงไว้แน่นหนา แต่สุดท้ายก็ต้องร้องออกมาเพราะไม่อาจทนได้
“มะ ไม่เอา! ท่านี้มันลึก!”
ลู่เทียนเฉินตัดสินใจพลิกตัวเฟยซูหลิงหันมาโดยไม่ถอนแก่นกาย ร่างกายของเฟยซูหลิงไหลตามแรงโน้มถ่วง ซึ่งนั่นยิ่งทำให้แก่นกายของลู่เทียนเฉินดันลึกเข้ามาจนสุด
ไม่ว่าอย่างไรเฟยซูหลิงก็ไม่ชินกับแก่นกายขนาดใหญ่ของลู่เทียนเฉิน แก่นกายของเฟยซูหลิงนับว่าใหญ่กว่ามาตรฐานผู้ชายทั่วไปอยู่แล้ว ทว่าแก่นกายของลู่เทียนเฉินกลับใหญ่กว่าเขาสองเท่า ภายในท้องของเฟยซูหลิงแน่นขนัดเสมือนกับว่ามีแก่นกายสองอันในร่างของเขา
ลู่เทียนเฉินอุ้มเฟยซูหลิงมาถึงเตียง ตอนปล่อยคนตัวเล็กลง แก่นกายก็เผลอหลุดออก เปิดโอกาสให้เฟยซูหลิงคลานหนีไม่คิดชีวิต “อะ ลู่—อ๊า!!” ลู่เทียนเฉินดึงข้อเท้าของเฟยซูหลิงไว้ ดันแก่นกายกลับเข้าไปทั้งหมดในคราวเดียว
เสียงของเฟยซูหลิงที่หลุดดังออกมานั้น ดังก้องไปทั้งห้องจนตัวเฟยซูหลิงเองสะดุ้งปิดปากด้วยความตกใจ เมื่อครู่เสียงของเขาดังทะลุไปถึงด้านนอกหรือป่าว...
สิ่งที่เกิดขึ้นครั้งเดียวทำให้เฟยซูหลิงปิดปากตัวเองแน่นทุกครั้งที่ลู่เทียนเฉินขยับ ลู่เทียนเฉินขมวดคิ้ว เอื้อมไปดึงมือเฟยซูหลิงออก เฟยซูหลิงไม่ยอม ความดึงดันอันดื้อรั้นจึงทำให้ลู่เทียนเฉินกระแทกแก่นกายเข้าไปแรง ๆ เมื่อคนใต้ร่างสะดุ้งเผลอผ่อนแรง ลู่เทียนเฉินจึงได้โอกาสรวบมือทั้งสองข้างขึ้นเหนือหัว
“อะ อะ อา! ปะ ปล่อยมือฉันเถอะ! เสียงของฉันมัน..” เฟยซูหลิงกล่าวเสียงกระแทกกระทั้น น่ารักมากจนลู่เทียนเฉินอดใจไม่ไหวก้มลงไปบดจูบ
พร้อมกับนั้นน้ำสีขาวขุ่นก็ปลดปล่อยออกมา ภายในท้องของเฟยซูหลิงอุ่นร้อน ดวงตาปรือฉ่ำน้ำ พึมพำอ้อนวอนด้วยน้ำเสียงแหบพร่า “พอแล้ว... ไม่ไหวแล้ว...” ยั่วยวนจนลู่เทียนเฉินอดไม่ได้ที่จะบดจูบอีกรอบ “ฮื่อ พอแล้วนะ”
ท่าทางของเฟยซูหลิงในปัจจุบันราวกับเป็นคนละคนกับเฟยซูหลิงในยามปกติ “ฉันยังอยากทำอยู่เลย” ลู่เทียนเฉินกล่าวพร้อมขยับแกล้งครั้งหนึ่ง
เฟยซูหลิงตกใจ “ครั้งหน้า! ครั้งนี้ฉันไม่ไหวแล้วจริง ๆ!”
เฟยซูหลิงมีลางสังหรณ์ว่าหากยอมให้ลู่เทียนเฉินทำต่อ วันว่างวันเดียวของเขาคงไม่ได้ทำอะไรนอกจากถูกหมาบ้ากามกักไว้บนเตียง
“หืม ครั้งหน้างั้นเหรอ” มุมปากของลู่เทียนเฉินค่อย ๆ ยกยิ้ม
เมื่อนั้นเฟยซูหลิงก็ชะงัก
อยู่ ๆ เขาก็เป็นฝ่ายพูดเรื่องครั้งหน้าขึ้นมาเอง แบบนี้มันก็เหมือนเขาตกลงไปในหลุมพรางของลู่เทียนเฉินไม่ใช่หรือยังไง
“จะตั้งตารอนะ ที่รัก” ลู่เทียนเฉินกล่าวยียวนขึ้นอีกครั้งไม่ยอมให้เฟยซูหลิงกลับคำ ถือวิสาสะหอมแก้มทั้งสองข้างไปด้วยกัน ถอนแก่นกายออกเดินโทง ๆ ไปห้องน้ำ ท่าทางจะไปจัดการอารมณ์ที่เหลือต่อด้วยตัวเอง
เฟยซูหลิงมองตามแผ่นหลังของลู่เทียนเฉินที่หายวับเข้าไปในห้องน้ำด้วยแววตาวูบไหว
ครั้งหน้า... ครั้งหน้าก็แย่เหอะ!